Skip to main content

ภาษา

 

ยูเอ็นเอชซีอาร์ เร่งระดมทุนช่วยตูนีเซีย และอียิปต์รองรับผู้อพยพจากลิเบีย

ผู้อพยพรอความช่วยเหลือ และการสัมภาษณ์หลังจากหนีเข้ามาพักพิงในตูนีเซียจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย

 

เจนีวา 25 ก.พ. (ยูเอ็นเอชซีอาร์) – วันศุกร์ที่ผ่านมา ยูเอ็นเอชซีอาร์เรียกร้องประชาคมโลกร่วมให้ความช่วยเหลือตูนีเซีย และอียิปต์ซึ่งเป็นสองประเทศในแอฟริกาเหนือที่รองรับผู้อพยพหลายพันคนจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย

โฆษกของยูเอ็นเอชซีอาร์ เมลิสสา เฟลมมิ่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เมืองเจนีวา โดยยกย่อง “ความมีมนุษยธรรม” ของรัฐบาลตูนีเซีย และอียิปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ประชาชนทั่วไปที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพที่หนีข้ามพรมแดนของสองประเทศ”

รัฐบาลเฉพาะกาลของตูนีเซียได้ประกาศเปิดพรมแดนรองรับผู้อพยพทุกชาติที่ต้องการหนีออกจากลิเบีย จากสถิติของพวกเขา ผู้คนกว่า 22,000 คนได้ข้ามพรมแดนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเป็นชนชาติตูนีเซียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้น เป็นชาวอียิปต์ เติร์ก โมรอคโค และจีน

เฟลมมิ่งกล่าวว่าชาวลิเบียส่วนหนึ่งที่อาศัยในหมู่บ้านบริเวณชายแดนหนีข้ามเข้ามาที่ตูนีเซีย โดยส่วนใหญ่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวชาวตูนีเซีย “เรามีความกังวลว่าชาวลิเบียที่อาศัยในส่วนกลางชของประเทศ และเมืองหลวง ทริโปลี ถูกห้ามไม่ให้หนีออกมา” เธอกล่าว

รัฐบาลอียิปต์แจ้งยูเอ็นเอชซีอาร์ว่ายินดีต้อนรับชาวลิเบีย และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือคนป่วยที่จำเป็นต้องหนีข้ามพรมแดน เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้เริ่มเข้าช่วยเหลือที่พรมแดนอียิปต์ในวันนี้ รายงานแจ้งว่า ปัจจุบันผู้ที่ข้ามพรมแดนเป็นชาวอียิปต์.

ระหว่างนี้ ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อรัฐบาลตูนีเซียในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบริเวณชายแดนที่ติดต่อกับประเทศลิเบีย ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สองทีมประจำที่จุดผ่านแดน ราช แอดจีร์ โดยมีหน้าที่ประสานงานกับกาชาดของตูนีเซีย และให้ความช่วยเหลือผู้คนที่เปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ และเด็กที่พลัดหลงจากพ่อแม่

“ยูเอ็นเอชซีอาร์ทำงานร่วมกับกาชาดตูนีเซีย และชุมชนที่อยู่บริเวณพรมแดน เบน การ์ดเดน ซึ่งมีอาสาสมัครที่ทำงานหนักเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นตลอด 24 ช.ม. และดูแลฟื้นฟูสภาวะจิตใจของผู้หนีเข้ามาใหม่อีกด้วย” เฟลมมิ่งกล่าวในเจนีวา

ถึงแม้ว่าในขณะนี้ ผู้คนที่หนีเข้ามาในตูนีเซียส่วนใหญ่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่ยังมีชาวต่างชาติอีกมากที่ต้องค้างคืนที่ชายแดน ในวันพุธที่ผ่านมา ชาวอียิปต์กว่า 1,000 คนได้รับที่พักชั่วคราว ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังสนามบินเกอร์บา เพื่อขึ้นเครื่องที่ทางรัฐบาลอียิปต์จัดเตรียมให้ จนถึงปัจจุบัน ผู้ที่เข้ามาใหม่ได้รับความช่วยเหลือจากชุมชนท้องถิ่น ในศูนย์เยาวชน โรงเรียน และโรงแรม

กองทหารของตูนีเชีย ยังได้จัดตั้งค่ายชั่วคราว ซึ่งสามารถรองรับผู้อพยพได้ 400 คน โดยมีเต้นท์ อุปกรณ์ยังชีพที่ยูเอ็นเอชซีอาร์มอบให้เพื่อช่วยเหลือคนได้มากขึ้นอีกกว่า 10,000 คน รวมทั้ง ผ้าห่ม และเสื่ออีกด้วย

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ในลิเบีย ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนผู้ลี้ภัย “เราได้รับโทรศัพท์จากผู้ลี้ภัยชาวอิรัค แคเมอรูน คองโก โซมาเลีย และเอริเทรีย ผู้ลี้ภัยแจ้งว่ามีความหวาดกลัวเพราะอาจถูกทำร้ายเนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ” เฟลมมิ่งกล่าว

ผู้ลี้ภัยจากตอนใต้ของแอฟริกา ได้แสดงความกลัวว่าพวกเขาอาจถูกกล่าวหาว่าเป็นทหาร ผู้ลี้ภัยหลายคนแจ้งว่าเขากำลังขาดแคลนอาหาร แต่หวาดกลัวที่จะออกไปข้างนอก” เธอกล่าว

ก่อนที่จะเกิดความไม่สงบ ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้จดทะเบียนผู้ลี้ภัยจำนวน 8,000 คนในลิเบีย โดยมีผู้ขอลี้ภัยอีกกว่า 3,000 คน โดยส่วนใหญ่มาจากชาด เอริเทรีย อิรัค ปาเลสไตน์ โซมาเลีย และซูดาน