Skip to main content

ภาษา

โอ เมห์กำลังกินขนมช่วงบ่ายกับครอบครัวของเธอ ในบ้านที่ค่ายผู้ลี้ภัยบ้านใหม่ในสอย จ.แม่ฮ่องสอน

หงา เรห์ ความกลัวของผู้เป็นพ่อ

        ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ การเลี้ยงดูแลลูกที่มีความบกพร่องทางร่างกายนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับทุกครอบครัวความท้าทายของเด็กที่มีความพิการและครอบครัวที่ต้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยนั้นชัดเจน แต่ด้วยความช่วยเหลือของคุณUNHCRทำงานอย่างหนักในการพัฒนาความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อผู้ลี้ภัยที่พิการที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยทั่วโลก

        โอ เมห์ วัย 12 ปี กำลังนั่งอยู่กับหลานสาวสุดที่รักของเธอวัย 14 เดือน ที่พอจะรับรู้ได้ถึงการผิดปกติของน้าสาว ทั้ง 2 กำลังแบ่งปันแตงกวากันกินด้วยความอ่อนโยน หงา เรห์ พ่อของโอ เมห์ มองพวกเขาอยู่ห่างๆอย่างเป็นห่วง “เราไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับโอ เมห์ เธอเกิดมาเป็นแบบนี้เลย เธอไม่เคยเดินและไม่สามารถมองเห็นได้อย่างคนปกติ เธอพูดไม่ได้แต่จะสื่อสารในแบบของเธอเอง เราต้องป้อนอาหารเธออย่างระมัดระวัง เพราะเธอกลืนแบบปกติไม่ได้ ผมกังวลเกี่ยวกับเธอตลอดเวลา”

โอ เมห์กับพ่อของเธอ และน้องสาว ดา เมห์ รวมทั้งหลานสาว
©UNHCR/ S. Rich
โอ เมห์กับพ่อของเธอ และน้องสาว ดา เมห์ รวมทั้งหลานสาว

         ตอนที่หงา เรห์ลี้ภัยมาจากประเทศพม่ากับภรรยาและลูกทั้ง4 พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะต้องอาศัยอยู่ในสถานการณ์การลี้ภัยนานหลายปี โอ เมห์ เกิดที่ค่ายบ้านใหม่ในสอย “เราลี้ภัยมาที่นี่เมื่อปี 2539” หงา เรห์อธิบาย “กองกำลังทหารเข้ามาในหมู่บ้านเรา ทำร้ายพวกผู้ชายส่วนหนึ่ง แล้วก็เริ่มเผาทุกสิ่งทุกอย่างทำร้ายสัตว์เลี้ยงของเรา ผมรู้สึกว่าเราไม่ปลอดภัย เราจึงต้องหนี ถึงตอนนี้ผมยังคงกลัวว่าครอบครัวของผมจะเป็นอันตราย” อย่างไรก็ตาม หงา เรห์ยังคงกังวลเกี่ยวกับครอบครัวและเพื่อนๆของเขาในประเทศไทย “เราไม่มีทางเลือก นอกจากอยู่ที่นี่” เขากล่าว “เราไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะไม่ปลอดภัย และที่นั่นไม่มีอะไรเหลือสำหรับเราอีกแล้ว อย่างน้อยเราอยู่ที่นี่ โอ เมห์ยังสามารถได้รับความช่วยเหลือ เราแค่อยากให้โอ เมห์มีอนาคตที่ดี”

หลานสาวของโอ เมห์กำลังมองผู้มาเยี่ยมจาก UNHCR
©UNHCR/ S. Rich
หลานสาวของโอ เมห์กำลังมองผู้มาเยี่ยมจาก UNHCR

        เจ้าหน้าที่คลินิคในค่ายผู้ลี้ภัยที่โอ เมห์อาศัยอยู่ คาดว่าโอ เมห์อาจมีปัญหาเกี่ยวกับอาการทางประสาท แต่การวินิจฉัยแบบนี้ในค่ายไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ดังนั้น UNHCR จึงให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าโอ เมห์ได้เข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน และได้รับความคุ้มครองเพื่อโอ เมห์จะได้มีความปลอดภัยต่อไปในอนาคต “ผมกับภรรยาเป็นห่วง โอ เมห์มากโดยเฉพาะ ถ้าวันหนึ่งเราสองคนจากไป เธอจะอยู่อย่างไร เธอเป็นลูกคนสุดท้อง เรารักเธอ แล้วลูกอื่นๆจะดูแลเธอได้ไหม เพราะพวกเขาก็ต่างแยกไปมีครอบครัวของตัวเอง เราคิดถึงอนาคตของเธอตลอดเวลา”

หงา เรห์กำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ UNHCR ถึงอนาคตของโอ เมห์และครอบครัวของเขา
©UNHCR/ S. Rich
หงา เรห์กำลัง และโอ เมห์

          แต่หงา เรห์ รู้ว่าอย่างน้อย โอ เมห์จะได้รับการดูแลรักษาทางการแพทย์ที่เธอต้องการเพราะในค่ายผู้ลี้ภัยมีคลีนิคขั้นพื้นฐาน และหงา เรห์ ได้บอกอีกว่าการรักษาและช่วยเหลือที่โอ เมห์ได้รับมาตลอดนั้นดีมาก

ข้อมูล : UNHCR และผู้พิการทางร่างกาย

    -  มีผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นประมาณ 3.5 ล้าน ที่มีความบกพร่องในทางร่างกาย ในค่ายและชุมชนแอร์อัดในเขตเมือง 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้คือเด็ก