Skip to main content

ภาษา

 

แองเจลิน่า โจลี่ เยี่ยมปากีสถานเพื่อเน้นย้ำความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย

ทูตสันถวไมตรีของยูเอ็นเอชซีอาร์ แองเจลิน่า โจลี่ เข้าเยี่ยมค่ายผู้ประสบภัยในเมือ

 

อิสลามาบัด ปากีสถาน 7 ก.ย. (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ทูตสันถวไมตรีของยูเอ็นเอชซีอาร์ แองเจลิน่า โจลี่เยี่ยมปากีสถานในวันนี้เพื่อตอกย้ำถึงความทุกข์ทรมาณของผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายล้านคน และความต้องการความช่วยเหลือต่อพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

โจลี่ เดินทางในฐานะทูตพิเศษของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กุเตเรส เมื่อวันอังคารเธอได้เยี่ยมหมู่บ้าน โมบิบ บันดา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองไคเบอร์ ปัคทุนควา ของปากีสถาน และพื้นที่ใกล้เมืองเพชวาร์ รวมถึงเข้าเยี่ยมผู้ลี้ภัยชาวอัฟกัน และค่ายสำหรับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ

"เห็นได้ชัดว่าภาวะวิกฤติยังไม่จบสิ้นในเร็วๆนี้” เธอกล่าว “ผู้คนสูญเสียทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ พืชพันธ์ และวัว ควาย รวมทั้งอาชีพการงาน หลังจากที่สื่อมวลชนได้จากที่นี่ไปแล้ว ผู้ประสบภัยยังต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะดิ้นรนสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่”

การเดินทางเยือนปากีสถานของโจลี่ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 แล้ว หลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีของยูเอ็นเอชซีอาร์ในปี พ.ศ. 2544 ครั้งล่าสุดเธอได้เยี่ยมผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวทางเหนือของปากีสถานในเดือนพ.ย. 2548 ในวันอังคาร เธอได้พบผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุทกภัย รวมถึง ในโมฮิบ บันดา ซึ่งร้อยละ 70 ของบ้านในพื้นที่แห่งนี้ถูกทำลาย หรือได้รับความเสียหายอย่างหนักจากกระแสน้ำ

"เราไม่มีทางที่จะซื้อหาสิ่งของที่เราเคยมีกลับมาได้ ไม่มีทาง” ชายสูงอายุ เรฮ์มาน กุล กล่าวกับโจลี่ ขณะที่เขาชี้ไปที่พัดลมพลาสติกตัวเก่าที่ฝังอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านที่เขาเคยอาศัย “ตั้งแต่น้ำท่วม แมลงวัน ยุง บินว่อนทุกที่...เกาะที่ตัวเด็ก ทุกที่ในตัวเรา เกาะทุกสิ่งทุกอย่าง”

เมื่อโจลี่ ถามภรรยาของเขาว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ภรรยาของกุลตอบว่า “เราจะสร้างภาระให้คุณโดยการบอกคุณว่าเราขาดแคลนอะไรบ้างได้อย่างไร ชั้นรู้สึกอาย” โจลี่เดินเยี่ยมหมู่บ้าน พบครอบครัว และได้พบเห็นความสูญเสีย และความสับสนที่เกิดขึ้นด้วยตัวของเธอเอง

“มีลำธารเล็กๆ อยู่นอกบ้านที่พัง มันเต็มไปด้วยแมลงวัน รองเท้าเก่า และเสื้อผ้าเก่าที่เพิ่งซักจากลำธารนั้น” โจลี่กล่าว

อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปากีสถานช่วงเดือนก.ค.ทำให้มีผู้ประสบภัยหลายล้านคน “เราต้องไม่ลืมว่าอุทกภัยไม่ได้เป็นภัยของประเทศนี้เพียงอย่างเดียว” เธอกล่าว

“พวกเขายังต้องก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ตั้งแต่แผ่นดินไหวในปี พ.ศ. 2548 พวกเขายังมีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศซึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งทางตอนเหนือ และยังมีผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันอีก 1.7 ล้านคนซึ่งยังต้องการความดูแล และที่พักพิงเนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศของพวกเขา จนถึงตอนนี้ แน่นอนว่าอุทกภัยครั้งล่าสุดกระทบต่อคนหลายล้านคน และกำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาดอีกด้วย” โจลี่กล่าว

“ปัญหาหนึ่งคงไม่ลบล้างอีกปัญหาหนึ่งไปได้ หัวข้อข่าวคงไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ซับซ้อนของประเทศปากีสถานได้” ทูตสันถวไมตรีย้ำถึงความจำเป็นที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแก่ผู้ประสบภัยที่เดือดร้อน

“ในสามทศวรรษที่ผ่านมา ปากีสถานได้ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก ตอนนี้ ประชาชนชาวปากีสถานเดือดร้อน ทุกฝ่ายต้องร่วมกันให้ความช่วยเหลือ” โจลี่กล่าวทิ้งท้าย

ยูเอ็นเอชซีอาร์ ได้แจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่อผู้ประสบภัยกว่า 750,000 คน แต่สถานการณ์น้ำท่วมยังมีต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของปากีสถาน สร้างความท้าทายต่อการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ซึ่งได้กลายเป็นหนึ่งในภาวะวิกฤติทางมนุษยธรรมที่ซับซ้อนที่สุด