Skip to main content

ภาษา

 

คุณครูชาวไนจีเรียผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลได้รับรางวัลนานเซ็นประจำปีพ.ศ. 2560

© UNHCR/Rahima Gambo

 

คุณครูผู้เป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือการปล่อยตัวนักเรียนหญิงชาวชิบอค ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติด้านมนุษยธรรม จากการก่อตั้งโรงเรียนท่ามกลางความขัดแย้งในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไนจีเรีย

 

© UNHCR/Rahima Gambo

 

ซานน่าห์ มุสตาฟา ครูผู้ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของเด็กผู้พลัดถิ่นที่เติบโตท่ามกลางความขัดแย้งในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไนจีเรียให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ได้รับการเสนอชื่อและชนะรางวัลนานเซ็นประจำปี พ.ศ. 2560  ครู มุสตาฟาได้ก่อตั้งโรงเรียนที่เมืองไมดูกูรี เมืองหลวงของรัฐบอร์โน จุดศูนย์กลางการจราจลของกลุ่มโบโกฮาราม โดยโรงเรียนแห่งนี้ได้เปิดสอนปกติตลอดระยะเหตุการณ์ความขัดแย้งของกลุ่มโบโกฮาราม เหตุการณ์ที่ทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์กว่า 20,000 คนเสียชีวิตตลอดแนวบริเวณทะเลสาบชาด และส่งผลให้ผู้คนหลายล้านคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่น

โรงเรียนแห่งนี้ได้มอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน รวมถึง ค่าอาหาร เครื่องแบบ และประกันสุขภาพแก่เด็กๆที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง รวมถึง เด็กที่กลายเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่จากความขัดแย้งของสองฝ่าย โดยเด็กๆจากททั้งสองฝ่ายสามารถเข้าเรียนที่นี่ได้ การไม่แบ่งแยกนี้ได้จัดว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดองที่มุสตาฟาหวังจะให้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้

นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติคนปัจจุบัน ได้กล่าวว่า “ความขัดแย้งได้ทิ้งบาดแผลฝังลึกให้แก่เด็กๆทั้งทางร่างกายและจิตใจ บีบบังคับให้พวกเขาต้องออกจากบ้านของตัวเอง และเผชิญกับความโหดร้าย และพลัดพรากจากครอบครัว”

นายฟิลลิปโป ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การศึกษาถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมืออันทรงพลังมากที่สุดในการช่วยกลุ่มเด็กผู้ลี้ภัยจากความโหดร้ายของความรุนแรง และการพลัดถิ่น การศึกษาจะช่วยให้พวกเขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความยากลำบากและรับมือกับกลุ่มผู้ติดอาวุธและการถูกเกณฑ์เข้ากับกลุ่มติดอาวุธด้วยทักษะ และความสามารถ โดยสิ่งที่ครูมุสตาฟาและทีมของเขาได้ทำนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาสันติภาพให้คงอยู่ และช่วยฟื้นฟูสภาพชุมชนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย” ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงขอมอบรางวัลนี้จึงเพื่อเป็นเกียรติแก่วิสัยทัศน์และงานของครูมุสตาฟา  

 

   © UNHCR/Rahima Gambo

 

UNHCR ประกาศผลผู้ชนะรางวัลนานเซ็นประจำปีนี้โดยได้เผยถึงสถานการณ์ของเยาวชนชาวไนจีเรียที่ต้องเติบโตโดยไม่ได้รับการศึกษา  เพราะภาคการศึกษาของประเทศถูกจำกัดโดยจำนวนประชากรเยาวชนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งความขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานเนื่องจากอยู่พื้นที่ความขัดแย้งและถูกโจมตีโดยกลุ่มโบโกฮารามรวมถึงมีการทำลายโรงเรียนและการฆ่าคุณครู

“โรงเรียนคือศูนย์กลางจิตใจของชุมชน การทำลายโรงเรียน เปรียบเสมือนกับการการทำลายอนาคตของชาวไนจีเรียรุ่นต่อไป” คุณจาน เอกแลนด์ เลขาธิการสภาผู้ลี้ภัยของประเทศนอร์เวย์ และเป็นผู้ร่วมจัดโครงการรางวัลนานเซ็นกล่าว  “การมอบรางวัลแด่ผลงานอันกล้าหาญของครูซานน่า มุสตาฟานั้นเท่ากับเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของกับการศึกษา ให้แก่อนาคตของประเทศไนจีเรีย”

นับตั้งแต่การก่อตั้งของโรงเรียนเมื่อสิบปีที่แล้ว เด็กนักเรียนในชั้นได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก จาก 36 คนเป็น 540 คน ยังไม่นับรวมไปถึงเด็กอีกหลายพันคนที่ต้องการศึกษาอย่างมากแต่ยังคงรอโอกาสอยู่ในรายชื่อสำรองเพื่อเข้าชั้นเรียน

ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 ครูมุสตาฟาได้เปิดโรงเรียนแห่งที่สองขึ้น ซึ่งห่างจากแห่งแรกเพียงไม่กี่กิโลเมตร ทำให้เด็กจำนวน 88 คนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งมีโอกาสได้เข้าเรียนเพิ่มมากขึ้น

งานของครูมุสตาฟาในภูมิภาคยังครอบคลุมถึงการต่อรองการปล่อยตัวตัวประกัน ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์การปล่อยตัวหญิงสาวจำนวน 21 คน หลังจากถูกกักตัวมานานกว่า 2 ปี ครูมุสตาฟายังได้มีบทบาทสำคัญในการยืนหยัดเพื่อสิทธิเสรีภาพของพวกเขาเหล่านั้นอีกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 เขาได้มีส่วนช่วยในการปล่อยตัว ตัวประกันเด็กสาวชาวชิบอคกว่า 82 คนให้เป็นอิสระ

ครูมุสตาฟาและกลุ่มครูอาสาสมัครของเขารู้ดีถึงความเสี่ยงที่เขากำลังเผชิญแต่งานนี้สำคัญเกินกว่าที่พวกเขาจะเพิกเฉยต่อสถาณการณ์นี้ ครูมุสตาฟาได้กว่าวว่า “โรงเรียนแห่งนี้สนับสนุนสันติภาพ และเป็นสถานที่ที่ชีวิตของเด็กทุกๆคนมีความหมาย” “เด็กเหล่านี้ควรที่จะได้รับการส่งเสริม ในวิถีที่ทำให้พวกเขาสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้”

นอกเหนือจากงานทางด้านการศึกษาของครูมุสตาฟาแล้ว เขาได้แสดงถึงเจตนารมณ์ที่จะช่วยเหลือสังคนในส่วนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง การสนับสนุนของเขามีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งความร่วมมือการช่วยเหลือหญิงที่สูญเสียสามี และหญิงสาวกว่าอีก 600 ชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือในเมืองไมดูกูรี

รางวัลนานเซ็นเป็นรางวัลที่มอบให้เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือที่โดดเด่นผู้พลัดถิ่น ผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้ในอดีตเช่น เอลีเนอร์ รูสเวลต์, การซา มิเชล, และลูชาโน ปาวารอตตี ซึ่งกำหนดการงานเฉลิมฉลองปีนี้จะถูกจัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560

 

 

เกี่ยวกับรางวัลนานเซ็น:

รางวัล Nansen Refugee Award เป็นรางวัลประจำปีที่มอบให้แก่องค์กรหรือบุคคลผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าได้อุทิศตนในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นภายใน และผู้ไร้สัญชาติ อันประกอบด้วยเหรียญรางวัลและเงินรางวัลจำนวน 150,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯที่ได้รับการสนับสนุนจากบสภาผู้อพยพนอร์เวยนอร์เวย์ รัฐบาลนอร์เวย์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และมูลนิธิอิเกีย โดยเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะรางวัลนานเซ็น จะถูกใช้เพื่อเป็นทุนในการพัฒนาโครงการ และเติมเต็มในโครงการที่พวกเขาทำอยู่