การศึกษาเพื่อเด็กผู้ลี้ภัย คือเป้าหมายของแคมเปญล่าสุดจากมูลนิธิ H&M

กรุงสตอกโฮล์ม, เด็กผู้ลี้ภัยจะได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา ภายใต้แคมเปญระดับโลกที่เปิดตัววันนี้โดยมูลนิธิ H&Mด้วยความร่วมมือกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR

โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรกำนัลของ H&M ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2559นี้ มูลนิธิ H&M จะนำไปบริจาคแก่ UNHCR เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาสำหรับเด็กผู้ลี้ภัยทั่วโลก อาทิ ประเทศเอธิโอเปีย มาเลเซีย ปากีสถาน ซูดานใต้ และซีเรีย โดยแคมเปญจะดำเนินการพร้อมกันในร้าน H&M กว่า 4,000 สาขาใน 47 ประเทศทั่วโลก

ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยกว่า 16.1ล้านคนอยู่ภายใต้การดูแลของ UNHCR กว่าครึ่งเป็นเด็ก ซึ่งเมื่อเด็กๆเหล่านี้ต้องถูกบังคับให้ลี้ภัยจะส่งผลต่อการขาดเรียนเป็นเวลาหลายปี

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กผู้ลี้ภัยมีความกระตือรือล้นในการสร้างชีวิตใหม่ และอนาคตอันสดใสของพวกเขา รวมถึงชุมชนของพวกเขาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทั่วโลก ณ ขณะนี้  มีเพียงร้อยละ 50 ของเด็กๆผู้ลี้ภัยที่ได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษา และมีเพียงร้อยละ 22 ที่ได้รับการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งการทำงานเพื่อช่วยเหลือให้เด็กผู้ลี้ภัยเข้าถึงการศึกษา คือหัวใจสำคัญของ UNHCR เราให้ความคุ้มครองประชากรผู้ลี้ภัยโลกซึ่งมีจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงหลักสำคัญของภารกิจอีกด้านในการค้นหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับวิกฤติผู้ลี้ภัย  

“พ่อของฉันพูดอยู่เสมอว่าการศึกษาคือกุญแจสำคัญ เราอาจจะสูญเสียสิ่งต่างๆรอบตัว แต่เราไม่สามารถสูญเสียความรู้ที่เรามีอยู่ได้” อเล็ก เว็ก ผู้สนับสนุนแคมเปญ อดีตผู้ลี้ภัยผู้กลายมาเป็นนางแบบระดับโลก กล่าวจากประสบการณ์ของเธอที่ต้องตกเป็นผู้ลี้ภัยในพื้นที่ที่กลายมาเป็นสาธารณรัฐซูดานใต้ในปัจจุบัน ซึ่งอเล็กรู้ดีว่าการถูกบังคับให้ต้องลี้ภัยจากบ้านของตัวเองนั้นเป็นเช่นไร ปัจจุบันเธอได้ทำหน้าที่ทูตของมูลนิธิ H&M และเป็นหนึ่งในทูตสันตวไมตรีของ UNHCR

“แคมเปญล่าสุดของ H&M ตั้งยอดบริจาคไว้ที่ 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 262.5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนหน่วยงานและโครงการต่างๆที่เกี่ยวกับเด็กผู้ลี้ภัยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเด็กๆที่ถูกบังคับให้ลี้ภัยนั้นมักจะกลายเป็นเด็กชายขอบที่ยากจะเข้าถึง เราจึงต้องการสนับสนุนการทำงานของ UNHCR เพื่อที่จะแน่ใจว่าเด็กๆเหล่านี้จะได้รับการศึกษา แม้จะตกอยู่ในภาวะวิกฤติ” ไดอานา อะมินิ ผู้จัดการมูลนิธิ H&M ให้ข้อมูลเพิ่มเติม    

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง​ ที่มูลนิธิ H&M ได้สร้างการมีส่วนร่วมของผู้คนทั่วโลกในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจเพื่อผู้ลี้ภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จำนวนของผู้ที่ถูกบังคับให้ลี้ภัยสูงที่สุด​ ดังนั้นความช่วยเหลือของโครงการนี้มีความหมายอย่างมาก แคมเปญนี้จะทำให้ UNHCR สามารถช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้เพิ่มขึ้น และเป็นสื่อกลางสำหรับบุคคลทั่วไปในการมีส่วนร่วมมอบความช่วยเหลืออีกด้วย” ลิโอเนลโล บอสคาร์ดิ  ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชนผ่านบริษัท และองค์กร กล่าว

เกี่ยวกับ UNHCR
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เป็นองค์กรระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยชีวิต และคุ้มครองสิทธิ รวมทั้งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัย ชุมชนที่ถูกบังคับให้ลี้ภัย รวมทั้งกลุ่มบุคคลไร้สัญชาติ UNHCR คือผู้นำระดับโลกในการมอบความคุ้มครองแก่ผู้ที่ถูกบังคับให้หนีจากบ้านตนเองเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งและการประหัตประหาร UNHCR มอบความช่วยเหลือเพื่อช่วยชีวิตกลุ่มคนเหล่านี้ในด้านที่พักพิง อาหาร น้ำสะอาด และช่วยคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน รวมทั้งพัฒนาแนวทางเพื่อหาที่พักพิงที่ปลอดภัยที่ๆพวกเขาสามารถเรียกว่าบ้านได้ เพื่อที่จะเริ่มต้นอนาคตใหม่ที่ดีกว่า UNHCR ยังช่วยเหลือกลุ่มบุคคลไร้สัญชาติในการช่วยเหลือให้พวกเขาได้รับสัญชาติ เจ้าหน้าที่ UNHCR ทำงานใน 127 ประเทศทั่วโลกโดยทำงานร่วมกับรัฐบาล องค์กรไม่แสวงผลกำไร ภาคเอกชน ชุมชน ชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งผู้ลี้ภัยเอง

เกี่ยวกับมูลนิธิ H&M
มูลนิธิ H&M คือมูลนิธิไม่แสวงผลกำไรระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากครอบครัวของสเตฟาน เพอร์สสัน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของหลักของบริษัท H&M ซึ่งเป้าหมายของมูลนิธิก็คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนเพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยการสนับสนุนชุมชน กลุ่มคน รวมถึงนวัตกรรม มูลนิธิ H&M ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และองค์กรต่างๆทั่วโลก มีจุดประสงค์ในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน4 ด้านซึ่งก็คือ การศึกษา น้ำสะอาด ความเท่าเทียม และคุ้มครองโลก นอกจากนั้นมูลนิธิ H&M ยังให้ความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์เร่งด่วน และได้ทำงานร่วมกันกับ UNHCR ตั้งแต่ปีพ.ศ 2558 และได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 500,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 17.5 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนUNHCR ในการมอบช่วยเหลือวิกฤติการณ์ผู้ลี้ภัยในยุโรปในด้านอาหาร ที่พักพิง การดูแลรักษาพยาบาล รวมถึงการลงทะเบียนและความช่วยเหลือพิเศษสำหรับเด็กผู้ลี้ภัย