Skip to main content

ภาษา

 

ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียสามารถเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย 500,000 คนหลังจากการประชุมแนวทางเพิ่มเป้าหมายการตั้งถิ่นฐานใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา

ครอบครัวมาห์มุดจากซีเรียเริ่มชีวิตใหม่ที่เมืองออตตาวา ประเทศแคนาดาในปีพ.ศ 2559 ภายใต้โครงการด้านมนุษยธรรมของประเทศแคนาดาเพื่อตั้งถิ่นฐานใหม่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 25,000 คน ©UNHCR

 

ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า ตอนนี้จำนวนของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่รวมถึงผู้ชาย ผู้หญิง เด็กตลอด 6 ปีที่ผ่านมาเกิน 5 ล้านคนแล้ว ประชาคมระหว่างประเทศต้องให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือมากกว่านี้ “เส้นทางในการให้ความช่วยเหลือด้านการตั้งถิ่นฐานใหม่นั้นยังต้องพัฒนาขึ้นอีกเพื่อเป็นทางออกให้กับผู้ลี้ภัย และการแก้ปัญหาในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สถานที่เพื่อรองรับการตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มากขึ้น แต่รวมไปถึงการเร่งเพิ่มความช่วยเหลือจากพันธะสัญญาที่มีอยู่เดิมเช่นกัน”

จำนวนการตั้งถิ่นฐานที่ตอนนี้ถึงครึ่งหนึ่งของเป้าหมายห้าแสนที่ตั้งไว้ เกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากการประชุมระดับสูงว่าด้วยเรื่องซีเรียเพื่อเรียกร้องให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียได้รับการตั้งถิ่นฐานใหม่ร้อยละ 10 ภายในพ.ศ 2561 แม้ว่าเป้าหมายจากการประชุมที่กรุงเจนีวาวันที่ 30 มีนาคม 2559 ว่าด้วยเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัย 500,000 คน ด้านการตั้งถิ่นฐานใหม่ และแนวทางความช่วยเหลืออื่นๆ ซึ่งตอนนี้มีจำนวนผู้ลี้ภัยที่ได้ไปตั้งถิ่นฐานแล้วทั้งหมด 250,000 คน

“คำมั่นสัญญาอันเป็นเจตนารมณ์เหล่านี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการต้อนรับและแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันรวมถึงการแบ่งปันความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างประเทศ ตอนนี้เราจำเป็นต้องเร่งความพยายามเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายของปีนี้ให้สำเร็จ คุณฟิลิปโป กรานดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าว

หลังจากการเซ็นต์ปฏิญญานิวยอร์กว่าด้วยผู้ลี้ภัยและผู้อพยพเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2559 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้ให้คำมั่นเพื่อที่จะเพิ่มความช่วยเหลือในการให้ที่อยู่เพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ถูกพิจารณาจาก UNHCRว่าต้องการได้รับความช่วยเหลือด้านความคุ้มครองและการช่วยเหลือในประเทศที่สาม

UNHCR ได้คาดการณ์ว่าผู้ลี้ภัยจำนวน 1.2 ล้านคนจะต้องการความช่วยเหลือด้านการตั้งถิ่นฐานในปีพ.ศ. 2559 และร้อยละ 40 ของจำนวนนี้คือชาวซีเรีย

ข้าหลวงใหญ่ฯ ได้กล่าวเน้นย้ำว่า “การตั้งถิ่นฐานใหม่เป็นเครื่องมือที่สำคัญเป็นอย่างมากในการให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะผู้ที่เปราะบางมากที่สุดเท่านั้นที่จะได้รับพิจารณาในการเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ตอนนี้ และด้วยเหตุผลนี้ UNHCRจะทำงานร่วมกับรัฐต่างๆเพื่อเพิ่มสถานที่ในการตั้งถิ่นฐานใหม่เพิ่มเติม รวมถึงแนวทางในการให้ความช่วยเหลือด้านการให้ความคุ้มครอง เพื่อทดแทนการตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะอย่างที่หลายๆรัฐได้ทราบดีจากประสบการณ์ว่าการตั้งถิ่นฐานใหม่นั้นไม่เพียงแต่จะให้โอกาสผู้ลี้ภัยได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ยังช่วยพัฒนาชุมชนที่รองรับพวกเขาอีกด้วย