Skip to main content

ภาษา

UNHCR ในประเทศไทย

เราทำงานร่วมกับรัฐบาลและองค์กรเอกชน (NGOs) เอ็นจีโอ เพื่อให้ความช่วยเหลือและให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยที่พักพิงในค่ายที่พักพิงชั่วคราวในประเทศ ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยในปี พ.ศ. 2518 อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

 

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือUNHCR ได้รับเชิญจากรัฐบาลไทยให้เข้าดำเนินงานในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ขณะนั้นเกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยชาวอินโดจีนจากเหตุการณ์สงครามเวียดนาม หรือสงครามอินโดจีนส่งผลให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา ลาว และเวียดนามจำนวนมากหลั่งไหลเข้าประเทศโดยประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยดังกล่าวไว้มากกว่า 1.3 ล้านคนมาเป็นระยะเวลาหลายปี 
 
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา UNHCR ได้ดำเนินงานทำหน้าที่ด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและบุคคลในความห่วงใยบทบาทและหน้าที่สำคัญของ UNHCR คือให้ความคุ้มครองและดำเนินงานผ่านทางโครงการต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราวมีความเป็นอยู่ที่ปลอดภัย ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในประเทศไทย 105,261 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2559) ในค่ายผู้ลี้ภัยทั้งหมด 9 ค่าย 4 จังหวัดตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตกได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน และตาก ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลไทยและความช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนต่างๆ (NGOs) โดยผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงและกะเหรี่ยงแดงจากประเทศพม่าซึ่งประกอบไปด้วยผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และคนชรา
 
UNHCR มุ่งเน้นการทำงานโดยยึดหลักมนุษยธรรม เจ้าหน้าที่ UNHCR ทุกคนทำงานอย่างหนักเพื่อให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองกลุ่มคนที่เปราะบางมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับรัฐบาลและองค์กรเอกชนต่างๆ (NGOs) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ลี้ภัยและบุคคลในความห่วงใย
 
ผู้ลี้ภัยที่อาศัยในค่ายในประเทศไทยถูกบังคับให้หนีเพื่อรักษาชีวิตจากความรุนแรงและความขัดแย้งในประเทศพม่า ปัจจุบัน ประชากรที่อาศัยในค่ายจำนวน 9 แห่งใน 4 จังหวัดบริเวณชายแดนไทย-พม่ามีจำนวน 105,261 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2559) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและกะเหรี่ยงแดง ผู้ลี้ภัยจำนวนมากอาศัยในค่ายมากกว่าสองทศวรรษ UNHCR ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะด้านการคุ้มครอง การเริ่มต้นชีวิตใหม่ และพัฒนาทักษะเพื่อให้พวกเขาพึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งหาทางออกที่ถาวรแก่พวกเขาอีกด้วย